แขนสำหลับลาก ใช้เหล็ก 1.5x3 นิ้ว หนา 1.6 มิล ประกบกันสองอันนะครับ มันจะพอดีกับชุดครอปเปอร์พอดีครับ ไว้สำหรับ จั้มกับหัวบอลที่ติดกับท้ายรถยนต์เรา
ติดตั้งที่ยึดหัวบอลกับกันชนท้ายรถยนต์ครับ ที่เห็นนี้มันบางไปนะครับ ดูแล้วไม่ปลอดภัย อันใหม่ผมทำใหม่ไม่ได้ถ่ายไว้ แข็งแรงใช้เหล็กให้หนาขึ้น
เมื่อโครงผนังเสร็จก็เริ่มใส่ผนังกันครับ ผมใช้สังกระสีเหมือนเดิม อย่าลืมวางซิลิโคนนะครับ ไม่งั้นจะเสียงดังจากสังกระสีครับ เมื่อใส่แล้วเคาะดูจะแน่นๆ ยิงรีเวทถี่ๆได้ครับ
เว้นช่องสำหรับหน้าต่าง และใส่บานพับสำหรับเปิดปิด
อันนี้เป็นฝาข้างครับ เปิดปิดได้ แผ่นใหญ่เลย เวลาเปิดแล้วค้ำยันกับพื้นจะกลายเป็นหลังคาไปในตัวครับ
อัดซิลิโคนทุกจุดครับ เคยเห็นรถกระบะบรรทุกหลังคาสูงบางคันวิ่งผ่านแล้วได้ยินเสียงดังโคร่งๆ แล้วรู้สึกไม่ชอบครับ อัดกาวแบบนี้แล้วเงียบสนิท
เริ่มเดินท่อสายไฟภายในครับ จุดสำหรับใส่ปลั๊กไฟ อุปกรณ์แสงสว่าง ไฟส่องป้ายภายนอก และท่อน้ำ ท่อน้ำทิ้งต่างๆ จริงแล้วตั้งใจว่าจะต้องมีฉนวนกันความร้อนทั้งตู้ และทำภายในอีกชั้น เพื่อความสวยงามและดูดี แต่ต้องใช้งบเยอะอยู่ เลยปล่อยเปลือยแบบนี้ไปก่อนครับ
ติดตั้งซิ้งสำหรับล้างจานและระบบน้ำ ที่สามารถต่อน้ำประปาจากภายนอกเข้ามาใช้งานได้ มีระบบน้ำทิ้งและถังดักไขมัน รวมถึงระบบไฟและน้ำสำรองกรณีไม่มีน้ำจากภายนอกครับ
ทำขาหลังครับ สำหรับเวลาเราปลดออกจากรถยนต์แล้วสามารถตั้งตรงอยู่ได้และมันคงปรับระดับได้ด้วยน๊อตเกลียวใหญ่ๆแบบนี้ จริงๆมีขายแบบสำเร็จมีมือหมุนให้ ง่ายสะดวก แต่มันก็แบบว่าแพงน่ะครับ 555 แอบบอกว่าอุปกรณ์สำหรับเทรลเลอร์ในยุคที่ผมทำอยู่นี่ (1997) ราคาแพงมากครับ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนปัจจุบัน หลายอย่างจะต้องสั่งจากต่างประเทศเท่านั้น เป็นที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม
แบบนี้ครับ ต้องใช้คู่กับขาหน้าด้วยนะครับ
เก็บพับขึ้นมาได้เวลาเราเคลื่อยย้าย
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ทำสีครับ ทั้งภายในและภายนอก ตัวเหล็กทำสีกันสนิมไว้ก่อนแล้วนะครับ
เมื่อทำสีภายนอกแล้วครับ
ภายในติดไฟส่องสว่าง เริ่มนำอุปกรณ์ที่จำเป็มาวางดูครับ
พัดลมดูดอากาศ
เสร็จแล้วย่องลากไปไว้ที่ๆจะขายของกันคืนนั้นเลยครับ ระยะทางราวๆ 30 กิโลเมตร วิ่งได้นิ่งมาก ไม่หนักอย่างที่คิด มีเต้นบ้างเพราะน้ำหนักบรรทุกยังไม่มี วิ่งด้วยความเร็ว 40-60 กม./ชม.
ติดป้ายและเปิดขายได้แล้วครับ
ดีงาม คุณนายชอบ ทุกอย่างถูกเก็บไว้ในเทรลเลอร์หมดครับ ถึงเวลาปิดก็เลื่อนทุกอย่างกลับเข้าไปแล้วปิดฝา ฝนตก แดดออกก็ยังพอมีที่หลบครับ
ถึงตรงนี้บางท่านอาจคิดว่าไม่เห็นจำเป็นต้องสบายอะไรขนาดนี้ แต่สำหรับหัวอกคนค้าขายข้างถนนน่าจะเข้าใจกันดีครับ คิดว่าอย่างงั้น